สล็อตออนไลน์ เตือนภัยพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก วัยรุ่น ล่าสุดพบว่าในโลกโซเชียลมีการแพร่หลายของคลิปทั้งในทำนองเชิญชวน และขาย “กาแฟผสมยาอี” กันหนักมาก โดยลักษณะทั่วไปเป็นผงเหมือนกาแฟ ใช้ศัพท์เฉพาะเรียกกันว่า “ฟิวกาแฟ”
แพ็กเกจใหม่แก๊งค้ายา ผสมยาอีใส่ซองครีมเทียม – ซองกาแฟสำเร็จรูป
ล่าสุด ทางตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาเตือนประชาชนแล้ว ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้ใช้โซเชียลว่า พบกลุ่มวัยรุ่นบนโลกออนไลน์ มีการนำวัตถุลักษณะผง ผสมกับกาแฟ บรรจุภายในซองสำเร็จรูป เมื่อนำมาชงเพื่อดื่มกิน จะทำให้เกิดอาการมึนเมา ซึ่งทราบภายหลังว่า วัตถุที่นำมาผสมกับกาแฟนั้น คือ ยาอี (Ecstasy) ซึ่งมีการซื้อขายกันราคาสูงถึง ซองละ 3,000 บาท มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่า 10 เท่า และมีอันตรายเสี่ยงต่อชีวิต
โดยยาอี (Ecstasy) จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เป็นสารสังเคราะห์ ที่ออกฤทธิ์ทั้งกระตุ้นประสาท และหลอนประสาท ก่อให้เกิดอาการมึนเมา เห็นภาพหลอน นอนไม่หลับ ร่างกายตื่นตัว และทำลายเซลล์สมองที่เกี่ยวกับความคิดและความจำ หากผู้ใดมีไว้จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อาจได้รับโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ตำรวจสอบสวนกลาง ขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าหลงซื้อกาแฟลักษณะดังกล่าว และหากพบเห็นการซื้อ-ขาย สารเสพติดต่าง ๆ สามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลมาได้ที่ เพจตำรวจสอบสวนกลางได้”
เกิดเหตุ ไฟไหม้จตุจักร บริเวณใกล้หอนาฬิกา ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว กำลังตรวจสอบสาเหตุ เพจเฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand ได้รายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อเวลา 12.22 น. ที่ผ่านมารับแจ้งจากศูนย์วิทยุอัมรินทร์ และสายด่วน 199 เหตุเพลิงไหม้ร้านขายของภายในตลาดนัดจตุจักรโครงการ 21 ใกล้เคียงหอนาฬิกา เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสารกำลังไปที่เกิดเหตุ
โดยในเวลาต่อมา เหตุเพลิงไหม้ร้านขายของภายในตลาดนัดจตุจักรโครงการ 21 ใกล้เคียงหอนาฬิกา เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสาร ถึงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเพลิงกำลังลุกไหม้ร้านนวดและร้านเฟอร์นิเจอร์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการใช้น้ำ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะ สามารถดับเพลิงได้ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ครม. เคาะงบสนับสนุนวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด ChulaCov19 และ วัคซีนใบยา ฝีมือคนไทย
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า ครม.อนุมัติโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด19 ChulaCov19 mRNA เพื่อทำการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีน เพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน กรอบวงเงิน 2,316 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการโครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Baiya) กรอบวงเงิน 1,309 ล้านบาท ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (อว.) โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินเพิ่มเติมฯ พ.ศ.2564 มีรายละเอียดดังนี้
1.โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 “ChulaCov19 mRNA” กรอบวงเงิน 2,316 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการทดสอบวิจัยในอาสาสมัครระยะที่ 3 เพื่อใช้ในการขึ้นทะเบียนตามเกณฑ์ที่องค์การอาหารและยา (อย.) กำหนด และเพื่อการผลิตวัคซีนสำหรับทดสอบระยะที่ 3 และเตรียมการผลิตสำหรับขึ้นทะเบียนรับรองจาก อย. ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานของการผลิตวัคซีนชนิด mRNA อย่างครบวงจร ทำให้ไทยสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ใช้ได้เอง และสามารถต่อยอดเทคโนโลยีนี้สู่การผลิตวัคซีนสำหรับป้องกันโรคอื่นๆ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดำเนินการกำหนดกลไกการกำกับติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
2.โครงการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Baiya (ผลิตจากใบยา) กรอบวงเงิน 1,309 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในส่วนของการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 อาสาสมัครอย่างน้อย 10,000 คน ตามหลักเกณฑ์ของ อย. ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ไทยสามารถผลิตวัคซีนโควิด-19 ได้ตั้งแต่ต้นน้ำด้วยตัวเอง และสามารถฉีดกระตุ้นภูมิให้ประชาชนคนไทยได้อย่างน้อย 60 ล้านโดสต่อปี โครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตในไทยและผ่านการทดสอบในระยะต่างๆ ตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ส่งผลให้ไทยมีข้อมูลการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในประเทศที่น่าเชื่อถือตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเร่งจัดทำรายงานผลการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 ของวัคซีนใบยา เสนอสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาอนุมัติงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
จัดทำรายงานสรุปรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เช่น หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัย ชื่อผู้เอาประกันภัย จำนวนเงินที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และจัดส่งรายงานให้สำนักงาน คปภ. ทุกวันทำการนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง และให้บันทึกรายการในสมุดทะเบียน สมุดบัญชี คำนวณและดำรงเงินสำรองประกันภัย ให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามกฎหมาย สล็อตออนไลน์